ชายคนหนึ่งเสียชีวิต หลังถูกผลักตกรางตัดหน้าขบวนรถไฟใต้ดินในนิวยอร์ก สหรัฐฯ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากการยั่วยุใดๆ และเกิดขึ้นไม่ถึง 1 เดือนหลังจากมีการประจำการเจ้าหน้าที่ เพื่อลดเหตุความรุนแรงที่พบมากขึ้นเรื่อยๆ ในระบบขนส่งของมหานครแห่งนี้

จากข้อมูลของตำรวจ ระบุว่าเหยื่อ ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยตัวตน ถูกผลักตกรางตัดหน้าขบวนรถไฟหมายเลข 4 เมื่อช่วงเย็นวันจันทร์(25มี.ค.) ในย่านอีส ฮาร์เลม ของนิวยอร์ก

เจ้าหน้าที่จับกุมและตั้งข้อหามือจู่โจมชื่อว่านายคาร์ลตัน แม็คเฟอร์สัน วัย 24 ปี ที่สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่ามีประวัติอาการป่วยทางจิตมานาน

"จากการสืบสวนเบื้องต้นสรุปว่า เหยื่อถูกผลักตกไปในราง ระหว่างรถไฟแล่นเข้าสู่สถานี โดยปราศจากการยั่วยุใดๆ" ตำรวจกล่าว

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เกิดเหตุยิงกันได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธมีดและพวกผู้โดยสารถูกผลักตกราง หลายต่อหลายคดีในนิวยอร์ก

ด้วยเหตุนี้ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม เคธย์ โฮชุล ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ประจำการกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิ 750 นาย เพื่อเฝ้าระวังและปกป้องสถานีรถไฟฟ้ามากกว่า 400 แห่ง ในโครงข่ายคมนาคมที่กว้างขวางของมหานครแห่งนี้

ไม่กี่ชั่วโมงก่อนเกิดเหตุในวันจันทร์(25มี.ค.) กรมตำรวจนิวยอร์ก ได้แถลงเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่อีก 800 นาย สำหรับไล่ล่าพวกผู้กระทำผิดลักลอบใช้บริการโดยไม่จ่ายเงิน

นิวยอร์ก ซึ่งอยู่ในภาวะไม่เท่าเทียมทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างรุนแรง ต้องประสบกับปัญหาอาชญากรรมพุ่งสูงขึ้นอย่างมากระหว่างการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 ในปี 2020 และ 2021 แต่สถานการณ์ดีขึ้นหลังจากนั้น

อย่างไรก็ตามจากข้อมูลล่าสุดพบว่าอาชญากรรมใหญ่ๆในระบบรถไฟฟ้าใต้ดินในเดือนมกราคมปีนี้ เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2023 ถึงเกือบ 50%

เหตุการณ์ในวันจันทร์(25มี.ค.) เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ณ ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินนิวยอร์ก ซึ่งทำให้พวกผู้ใช้บริการระบบขนส่งของเมืองแห่งนี้ ต้องอยู่ในภาวะระมัดระวังขึ้นสูงอยู่ตลอดเวลา

เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ มีบุคคลรายหนึ่งเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บอีก 5 ราย ในเหตุยิงกันที่สถานีรถไฟใต้ดินแห่งหนึ่งในนิวยอร์ก ก่อนถึงชั่วโมงเร่งด่วนไม่นานนัก

อีกเหตุการณ์หนึ่งเมื่อเร็วๆนี้ ผู้หญิงรายหนึ่งสูญเสียเท้าทั้ง 2 ข้าง จากเหตุคนรักของเธอผลักเธอตกรางรถไฟ หลังมีปากเสียงกัน และเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน ผู้หญิงอีกคน ถูกส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ในอาการวิกฤต หลังบุคคลรายหนึ่งซึ่งอยู่ในอาการคลุ้งคลั่งผลักเธอเข้าหาขบวนรถไฟที่กำลังแล่นเข้าสู่สถานี

(ที่มา:เอเอฟพี)