วาระสำคัญในเดือนเมษายนนี้ที่ไม่อยากให้คนรักชานมไข่มุกพลาด คือการร่วมดื่มเครื่องดื่มสุดโปรดเฉลิมฉลอง “วันชานมไข่มุกแห่งชาติ” (National Bubble Tea Day) ซึ่งจะตรงกับวันที่ 30 เมษายนของทุกปี

ทีมข่าวพีพีทีวีจึงได้รวบรวม 10 ร้านชานมไข่มุกยอดฮิตที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นร้านอร่อยอันดับต้นๆ ของประเทศไทยจากเว็บไซต์จัดอันดับข้อมูลที่น่าสนใจ Top Rank Thailand

Freepik/freepik

10 ร้านชานมไข่มุกยอดนิยม

ไม่รู้จะเลือกดื่มชานมไข่มุกไหนดี อยากให้ลองดู 10 ร้านที่ได้รับการจัดอันดับว่าโดดเด่นสุดภายในประเทศไทยเมื่อช่วง 6 เดือนที่ผ่านมากัน (ข้อมูลเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566) เผื่อจะได้เก็บไว้เป็นลิสต์ เตรียมมาเขย่ากินพร้อมกันในวันที่ 30 เมษายนนี้!

KOI Thé 

ร้านชานมไข่มุกต้นตำรับจากไต้หวันของ “มิสหม่า” (Ms.Khloe Ma) ที่ต่อยอดมาจากธุรกิจร้านชาของครอบครัวชื่อดัง “อู่สือหลาน”

โดย KOI Thé เปิดสาขาแรกที่ไต้หวันในปี 2006 ผ่านมากว่า 12 ปี ขยายสาขาไปแล้วถึง 350 สาขา ใน 12 ประเทศ ซึ่งรวมประเทศไทยด้วย

ถึงแม้ว่าจะมีราคาขายเริ่มต้นสูงกว่าร้านชานมไข่มุกเจ้าอื่นๆ แต่สิ่งที่ทำให้ KOI Thé โดดเด่นจนครองใจคนไทยได้เป็นอันดับต้นๆ คือ “ไข่มุกคาราเมลสีทอง” ที่มีสัมผัสและรสชาติหวานละมุนเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนแบรนด์อื่นๆ

Tiger Sugar Thailand

อีกหนึ่งร้านชานมไข่มุกจากต้นตำรับไต้หวันที่ประสบความสำเร็จมาแล้วกว่า 8 ประเทศทั่วโลก และได้มาเปิดสาขาที่ไทยเป็นประเทศที่ 9 โดยใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีนับตั้งแต่ปี 2017

สำหรับเอกลักษณ์ของที่นี่นั้นคือความพิถีพิถันที่ทำให้รสชาติออกมาหวานนุ่มละมุนลิ้นสุดๆ เพราะตัวน้ำเชื่อมที่ทำมาจากน้ำตาลทรายแดง นมสด และครีมมูส ผสมผสานกับชาที่ใช้เวลาในการชงนานกว่า 3 ชั่วโมง

อีกทั้งยังมีจุดที่น่าสนใจอีกอย่าง คือร้านจะมีเทคนิคเล็กๆ ให้ลูกค้าได้เพิ่มความอร่อยด้วยการเขย่า 15 ครั้งก่อนดื่มด้วย ยิ่งทำให้เหล่านักชิมไม่ควรพลาด ต้องไปท้าพิสูจน์ความอร่อยนี้กันให้ได้สักครั้ง

The Alley

ร้านชานมน้องกวางจากไต้หวันที่ได้ประยุกต์รสชาติให้ทันสมัยมากขึ้น แถมยังขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบใหม่ๆ มารังสรรค์เป็นเมนูที่ไม่เหมือนใคร ทำให้รสชาติของร้าน The Alley แตกต่างจากเจ้าอื่นอย่างชัดเจน และกลายเป็นที่โด่งดันจนมีหลายสาขาด้วยกันใน 30 เมืองทั่วโลก

อีกทั้งยังมีไข่มุกสูตรลับของร้านในชื่อ “Deerioca” เสิร์ฟมาพร้อมกับชานม ซึ่งว่ากันว่าใครที่ยังไม่ได้ลองถือว่าไม่ใช่แฟนชานมไข่มุกตัวยง

ATM Tea Bar

ร้านชานมไข่มุกสุดเก๋ที่เกิดขึ้นมาจากแนวคิด “กดเงินจากตู้ ATM ยังไงให้ออกมาเป็นชา” ทำให้บาร์และการตกแต่งร้านของมีลักษณะคล้ายกับตู้ ATM

แต่เห็นแบบนี้แล้วใช่ว่าความหมายของคำว่า ATM จะย่อมาจากตู้กดเงินจริงๆ แต่ย่อมาจาก “A Tea Moment” ที่เจ้าของร้านอยากให้คนที่เข้ามาดื่มเครื่องดื่มที่ร้านได้มีช่วงเวลาดีๆ ในการดื่มชา ทำให้ร้านใส่ใจกับวัตถุดิบมาก มีการใช้นมสดแทนครีมเทียม และใบชาต้องมาจากแหล้งต้นตำรับเท่านั้น ยิ่งทำให้ชานมไข่มุกของร้านนี้มีครบทั้งความครีเอทของตัวร้านและรสชาติ

Dakasi

ร้านชานมไข่มุกจากไต้หวันที่ถือเป็นแบรนด์ชานมไข่มุกแรกๆ ที่เข้ามาประสบความสำเร็จในประเทศไทย เพราะรสชาติที่เข้าถึงทุกเพศทุกวัยได้ง่าย ประกอบกับราคาที่ย่อมเยา ทำให้ลูกค้าของ Dakasi มีความหลากหลายและยังสร้างความประทับใจทั้งในเรื่องรสชาติและเอกลักษณ์ของไข่มุกที่เป็นสูตรเฉพาะของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี

Seoulcial Club

ร้านชานมไข่มุกเสือพ่นไฟที่หลายคนชอบคิดว่าเป็นแบรนด์จากชาวต่างชาติ แต่ที่จริงแล้วเป็นแบรด์สัญชาติไทย ที่ใช้เวลาก่อตั้งเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น แต่ก็ประสบความสำเร็จมากมายเปิดให้บริการด้วยกันถึง 8 สาขาทั่วประเทศไทยแล้ว และยังมีเกณฑ์จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อีก รวมถึงในต่างประเทศด้วย

ในเรื่องของรสชาติชานมไข่มุกของที่นี่นั้น หวานมันกลมกล่อมไม่เป็นรองใคร แถมยังมีหัวเสือขนาดใหญ่ที่ทางร้านทำขึ้นเพื่อเป็นช่องทางในการเสิร์ฟชานมอีก ยิ่งเพิ่มอรรถรสในการกินเข้าไปอีก

CoCo Fresh Tea & Juice

ร้านชานมไข่มุกระดับพรีเมียมร้านแรกของเมืองไทย ที่ได้บริษัทแม่จากไต้หวันมาร่วมทุนกับคนไทยเพื่อเปิดสาขาภายในประเทศให้คนไทยได้ลิ้มลองถึงรสชาติระดับพรีเมียม

โดยจุดเด่นของร้านจะอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบแบบพรีเมียมที่ส่งตรงมาจากไต้หวัน และการการชงชาแบบแก้วต่อแก้วทุกครั้งเพื่อให้ได้รสชาติที่เข้มข้น กลมกล่อม และสดใหม่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ร้านนี้มีลูกค้าติดใจเป็นจำนวนมาก และมีสาขามากถึง 959 สาขาทั่วโลกแล้ว

Kamu

อีกหนึ่งร้านชานมไข่มุกสัญชาติไทยที่มีเอกลักษณ์เป็นญี่ปุ่นมากกว่าไต้หวัน เพราะเจ้าของร้านชื่นชอบในการดื่มชาญี่ปุ่นจึงเกิดไอเดียโดยนำทั้งสองอย่างมาผสมกันจนเกิดเป็นแบรนด์ “Kamu” นั่นเอง

แบรนด์นี้จึงตอบโจทย์ทั้งคนชอบชานมไข่มุก และชาเขียว แถมยังมีเมนูขีสที่ขึ้นชื่อ มัดใจคนชอบชีสได้อีก จึงเป็นเหตุผลให้ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่า หรือลูกค้าใหม่ ต่างก็นึกถึงร้านนี้เป็นอันดับต้นๆ

Brown Café 

ร้านชานมไข่มุกของคนไทยจากจังหวัดเชียงใหม่ ที่เริ่มต้นจากความตั้งใจของเจ้าของร้านที่อยากจะมีร้านขนมหวานเป็นของตัวเอง แต่เพียงไม่นานก็ขยับขยายเพิ่มคาเฟ่เข้ามา โดยมีชานมไข่มุกเป็นซิกเนเจอร์ของร้าน สุดท้ายโด่งดังจนมีหลากหลายสาขาทั่วประเทศ

นอกจากความอร่อยเฉพาะตัว สิ่งที่พิเศษของร้านคือ การใช้วัตถุดิบตามฤดูกาลผสมผสานกับความเป็นไทยลงไปในเมนูขนมหวานและชานมไข่มุก ทำให้มีตัวเลือกหลากหลายไม่น่าเบื่อ เป็นที่จับตามองของเหล่านักชิม

Mr.Shake Beyond

ร้านชานมไข่มุกที่หลายคนรู้จักในชื่อ “Mr.Shake” เพราะถือเป็นตัวจุดประกายตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทย ที่ทำให้อีกหลายๆ แบรนด์เกิดขึ้นในภายหลังต่อมา แต่เมื่อไม่นานมานื้ได้เปลี่ยนชื่อเป็น “Mr.Shake Beyond”

อย่างไรก็ตามแม้จะเป็นพี่ใหญ่ของตลาด แต่รสชาติยังคงดีไม่เปลี่ยน โดยมีความโดดเด่นอยู่ที่รสชาติกลมกล่อมแบบพรีเมียมแต่ราคาย่อมเยา และไข่มุกนุ่มนิ่มฉบับของร้าน ที่ชงให้แบบแก้วต่อแก้ว สร้างความประทับใจให้ใครหลายคน ดึงดูดทั้งคนเก่าและหน้าใหม่ให้เข้ามาลิ้มลอง เพราะทั้งสดใหม่ อร่อย แถมแพ็คเกจยังน่ารัก ทำเอาหลายคนบอกว่าแล้วแบบนี้ใครจะอดใจไหว

Freepik/freepik

ประวัติวันชานมไข่มุก

สำหรับจุดเริ่มต้นของเครื่องดื่มแสนอร่อยนี้ ถือกำเนิดขึ้นในดินแดนไต้หวันในช่วงปี 1987 โดยเริ่มต้นมาจากร้านน้ำชา “ชุนฉุ่ยถัง” ซึ่งคาดว่าเป็นร้านแรกที่คิดค้นเมนูชานมไข่มุกขึ้นมา

เพราะในสมัยนั้นร้านชุยฉุ่ยถังโด่งดังมากในเรื่องความเชี่ยวชาญด้านการเลือก คัดสรร และชงชาแต่ละสายพันธุ์ได้รสชาติดีที่สุด จนเป็นที่ยอมรับในวงกว้างทั้งในและต่างประเทศ

กระทั่งในปี 1988 ร้านชุนฉุ่ยถังเจอลูกค้าชาวต่างประเทศมาถามหาชาที่เสิร์ฟแบบเย็น (ซึ่งโดยปกติมักจะเสิร์ฟชาแบบร้อน) ในตอนนั้นผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ (Lin Hsiu Hui) จึงได้ชงชาอัสสัมแบบเย็นให้ แล้วบังเอิญลองเทขนมไต้หวัน (Fen Yuan) ที่ทำจากแป้งมันสำปะหลังที่มีเนื้อเหนียวหนุบหนับลงไปด้วย

ถือเป็นจุดเริ่มต้นของขานมไข่มุก ที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าคนนี้เป็นอย่างมากและกลายเป็นที่พูดถึงกันปากต่อปาก ซึ่งไม่ว่าใครที่ได้ชิมต่างก็ตกหลุมรักเครื่องดื่มนี้

ชานมไข่มุกจึงกลายเป็นสินค้าส่งออกที่โดดเด่นที่สุดของไต้หวันในศตวรรษที่ 21 และในที่สุดก็มาปรากฏในร้านเครื่องดื่มของมหาวิทยาลัยในอเมริกาฝั่งตะวันตก ที่ควีนส์ รัฐนิวยอร์ก มีชื่อว่า “Kung Fu Tea” โดยเริ่มต้นเปิดวันแรกในวันที่ 30 เมษายน 2010

ก่อนจะเริ่มเป็นที่นิยมแพร่หลายไปทั่วโลก และก่อให้เกิดวันชานมไข่มุกแห่งชาติ (National Bubble Tea Day) ขึ้นมา ซึ่งกำหนดให้ตรงกับวันที่ 30 เมษายนของทุกปี และเริ่มเฉลิมฉลองครั้งแรกในปี 2018

เรื่องน่ารู้ของชานมไข่มุก

นอกจากจะรู้เรื่องถิ่นกำเนิด และความเป็นมาของเครื่องดื่มแก้วโปรดของคนทั่วโลกกันไปแล้ว ยังมีเรื่องใต้ฝาชานมไข่มุกที่รอคอยให้ใครหลายคนได้ค้นพบ

• รสชาติหลากหลาย

รสชาติของชานมไข่มุกมีได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับน้ำเชื่อม เบสที่ใช้ชงชา หรือผลไม้ โดยอาจมีตั้งแต่รสชาติหวานไปจนถึงรสขม หรือเปรี้ยวเล็กน้อยในบางกรณี

• ยิ่งเขย่ายิ่งอร่อย

สาเหตุที่ต้องเขย่าชา เพราะ “แทนนิน” ในใบชาเมื่อถูกเขย่าแรงๆ จะทำปฏิกิริยากับออกซิเจน ทำให้เกิดฟองด้านบนของน้ำ ยิ่งทำให้กลิ่นยิ่งหอม นุ่มลิ้นมากขึ้น และยังดับกระหายได้ดี

• พลังงาน 299-400 กิโลแคลอรี่

จากการวิจัยต่างๆ ของชานมไข่มุกหนึ่งหน่วยบริโภคมีพลังงานประมาณ 299-400 กิโลแคลอรี

• ช่วยเพิ่มพลังงาน

น้ำตาล และคาเฟอีน ในชาดำ ชาขาว หรือชาเขียว ทำให้เครื่องดื่มยอดนิยมนี้สามารถให้พลังงานที่ดีเยี่ยมได้

• อาจเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน

เนื่องจากน้ำเชื่อมที่ใส่ลงในชานมไข่มุก มีฟรุกโตสหรือซูโครสสูง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะดื้ออินซูลินในตับ ทำให้เกิดการสะสมไขมันในอวัยวะภายในและระดับไตรกลีเซอไรด์ คอเลสเตอรอลสูงขึ้นได้ จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเบาหวาน ดังนั้นจึงควรบริโภคแต่น้อย ประมาณ 1 แก้วกำลังดี และไม่ควรเพิ่มความหวานเข้าไปอีก