ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ แถลงที่ทำเนียบขาวในวันจันทร์ (1 มิ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นว่า หากรัฐและเมืองต่าง ๆ ล้มเหลวในการควบคุมการประท้วงไม่ให้บานปลาย เขาจะสั่งให้กองกำลังทหารสหรัฐเข้าจัดการทันที
"ผมได้ระดมทรัพยากรทั้งจากรัฐบาลกลางและท้องถิ่น รวมถึงกำลังคน และกองทัพ เพื่อปกป้องสิทธิของชาวอเมริกันที่ปฏิบัติตามกฎหมาย" นายทรัมป์กล่าว "วันนี้ ผมได้แนะนำให้ผู้ว่าการรัฐทุกคน สั่งกองกำลังพิทักษ์ชาติ (National Guard) เข้าประจำการในจำนวนที่เพียงพอต่อการยึดพื้นที่บนถนนกลับคืนมา"
ผู้นำสหรัฐย้ำว่า นายกเทศมนตรีและผู้ว่าการรัฐต้องทำหน้าที่อย่างหนักจนกว่าเหตุการณ์รุนแรงนี้จะอยู่ในการควบคุม หากเมืองหรือรัฐใดปฏิเสธที่จะดำเนินมาตรการที่จำเป็นต่อการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เขาจะสั่งระดมกองทัพสหรัฐเข้าประจำการในพื้นที่และแก้ปัญหานี้อย่างรวดเร็วแทนพวกเขาเอง
"อย่างที่บอกไป ผมเตรียมกำลังทหารและตำรวจชุดติดอาวุธหนักจำนวนหลายพันนาย เพื่อหยุดยั้งการก่อจลาจล การปล้นสะดม การทำลายทรัพย์สิน และการสร้างความเสียหายแก่อาคารอย่างป่าเถื่อน"
ขณะนี้ ใน 15 รัฐและกรุงวอชิงตันของสหรัฐ สั่งหน่วยกองกำลังพิทักษ์ชาติเข้าประจำการเพื่อควบคุมสถานการณ์ประท้วงที่มีต้นตอจากการเสียชีวิตด้วยน้ำมือตำรวจของชายผิวสีชื่อ "จอร์จ ฟลอยด์"
ขณะที่ในนครนิวยอร์ก ซึ่งมีการประท้วงเช่นกัน นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนิวยอร์กได้ประกาศในวันจันทร์ (1 มิ.ย.) สั่งเคอร์ฟิวตั้งแต่ 23.00-05.00 น. ขณะที่การประท้วงต่อต้านการเหยียดผิวในเมืองเข้าสู่ความรุนแรงจนถึงขั้นปล้นสะดม ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธฺุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 ที่ยังไม่คลี่คลาย
"เราสนับสนุนการประท้วงอย่างสันติ" นายเดอ บลาซิโอกล่าว พร้อมเผยว่า การตัดสินใจของเขามีขึ้นหลังจากปรึกษาหารือกับนายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก และเป็นการเดินตามรอยเมืองต่าง ๆ เกือบ 40 แห่งทั่วสหรัฐที่ประกาศเคอร์ฟิวไปก่อนหน้านี้
ในถ้อยแถลงร่วมของนายกเทศมนตรีและผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ระบุว่า จะมีการเพิ่มกำลังตำรวจเข้าประจำการในเมืองแห่งนี้เป็น 2 เท่า "เพื่อช่วยป้องกันความรุนแรงและความเสียหายทางทรัพย์สิน" โดยเฉพาะในพื้นที่ต่าง ๆ ด้านการค้า ในนั้นรวมถึงแมนฮัตตันตอนล่าง ซึ่งพบเห็นร้านค้าถูกทุบกระจกและโดนปล้นสะดมเมื่อคืนที่ผ่านมา
ไม่นานหลังจากแถลงข่าว นายคูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กให้สัมภาษณ์กับเอ็มเอสเอ็นบีซี แสดงความกังวลว่า การประท้วงจะดึงดูดผ้คนหลายพันคนเข้าร่วม ซึ่งอาจเป็นการแพร่กระจายเชื้อต้นตอโรคโควิด-19 ในขณะที่นิวยอร์กเป็นหนึ่งในศูนย์กลางการแพร่ระบาดในสหรัฐ
นายคูโอโม เสริมว่า แม้เขาสนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงและความต้องการส่งสารเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับการเสียชีวิตของ "จอร์จ ฟลอยด์" แต่การใช้ความรุนแรงและเหตุปล้นสะดมที่เกิดขึ้นในนิวยอร์กเป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับมหานครแห่งนี้ รวมถึงรัฐนิวยอร์ก และความเคลื่อนไหวทั่วประเทศกำลังบ่อนทำลายและเบี่ยงเบนความสนใจของสังคมไปจากชนวนเหตุของการประท้วงครั้งนี้