โดยกระทรวงการคลังมีความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงควรพิจารณาการบริหารจัดการเสถียรภาพของราคาน้ำมันดีเซล และสถานะทางการเงินของกองทุนฯ ให้เหมาะสม โดยพิจารณาปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลทันที 1-2 บาทต่อลิตร และบริหารจัดการให้ราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล อยู่ในช่วงระหว่างราคา 33–35 บาทต่อลิตร

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุโดยเสนอความเห็นเพิ่มเติมด้วยว่า ควรพิจารณาจัดเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราที่แตกต่างกัน ระหว่างประเภทน้ำมันดีเซล รวมทั้งพิจารณาความเป็นได้ในวิธีการนำเทคโนโลยี เช่น แอพพลิเคชั่น หรือบัตรส่วนลดมาใช้ในการอุดหนุนราคาน้ำมันในอนาคตเพื่อให้สามารถดำเนินการได้เฉพาะกลุ่มเป้าหมาย
 

สำหรับสถานะของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงล่าสุดวันที่ 29 ม.ค. 66 ติดลบอยู่ที่ 113,436 โดยแบ่งเป็น

• น้ำมัน ติดลบ 68,133 


• LPG ติดลบ 45,303

ส่วนการเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯปัจจบันอยู่ที่ประมาณ 5 บาทต่อลิตร

นอกจากนี้ ล่าสุดตั้งแต่เวลา 05.00 น. วันนี้ (2 ก.พ.66) บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และบมจ. ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก หรือโออาร์  (OR) มีการปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน แก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 30 สตางค์ต่อลิตร หลังจากที่เมื่อวันที่ 1 ก.พ.66 ปรับลดลงมาแล้ว 40 สตางค์ต่อลิตร

อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยที่สนับสนุนด้วยว่า "ราคาน้ำมันดีเซล" น่าจะปรับลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 7 เดือนก็คือการที่สำนักงานกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (สกนช.) เตรียมแถลงข่าววันนี้  ภายใต้หัวข้อ "การปรับราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล" ซึ่งแน่นอนว่าไม่น่าจะเป็นการปรับขึ้นอย่างแน่นอน เพราะรัฐบาลมีนโยบายตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่ให้เกิน 35 บาทต่อลิตร 

สำหรับราคาน้ำมันดีเซลในปัจจุบันอยู่ที่ 

• ไฮพรีเมี่ยมดีเซล B7 ลิตรละ 43.66 บาท (โออาร์)


• ไฮพรีเมี่ยมดีเซลS B7 ลิตรละ 43.66 (บางจาก)


• ดีเซล B7  ลิตรละ 34.94 บาท


• ดีเซล B10 ลิตรละ 34.94 บาท 


• ดีเซล B20 ลิตรละ 34.94 บาท