MOC Library
20 Oct 2021

ผู้เชี่ยวชาญแนะเที่ยวอย่างไรให้ปลอดภัย เมื่อหลายชาติในเอเชียทยอยเปิดประเทศ




  • ผู้เชี่ยวชาญแนะนำข้อปฏิบัติเที่ยวอย่างปลอดภัย สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ หลังชาติในอาเซียนเริ่มทยอยเปิดประเทศแก่ผู้ที่รับวัคซีนครบโดส

  • แม้นักท่องเที่ยวจะรับวัคซีนครบแล้ว แต่ก็ยังควรปฏิบัติตัวตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากาก เพื่อให้รอดพ้นจากไวรัสร้ายในขณะท่องเที่ยว






หลายประเทศในอาเซียนค่อยๆ ทยอยเปิดพรมแดนต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ที่ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว สามารถกลับเข้ามาท่องเที่ยวได้อีกครั้ง ขณะที่อีกหลายประเทศในยุโรป และสหรัฐอเมริกาที่เตรียมเปิดประเทศในเดือนพฤศจิกายนนี้แล้วเช่นเดียวกัน แต่นักท่องเที่ยวจะสามารถเที่ยวได้ปลอดภัยแค่ไหน และควรมีแนวทางในการปฏิบัติตัวอย่างไร ลองไปฟังคำแนะนำและมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ







ปัจจัยอะไรที่นักท่องเที่ยวควรพิจารณาบ้าง?




ประเทศในเอเชียอย่างไทย เวียดนาม และสิงคโปร์เริ่มทยอยเปิดบางจังหวัดให้นักท่องเที่ยวจากต่างชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว เพื่อหวังฟื้นฟูและกระตุ้นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ทางผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า แม้ตัวนักท่องเที่ยวเองจะได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว แต่ก็ควรพิจารณาถึงอัตราการฉีดวัคซีนของประเทศที่ต้องการจะเดินทางไป รวมทั้งพิจารณาถึงมาตรการด้านสาธารณสุขของประเทศนั้นๆ ด้วยว่า สามารถสร้างความมั่นใจให้ได้มากน้อยเพียงใด




โดยขณะนี้ สิงคโปร์มีผู้รับวัคซีนครบโดสแล้ว 83 เปอร์เซ็นต์จากประชากรทั้งหมด 5.5 ล้านคน ขณะที่ประเทศไทยทั่วประเทศมีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ที่ 35 เปอร์เซ็นต์ แต่เกาะภูเก็ตที่เป็นพื้นที่แรกที่เปิดรับนักท่องเที่ยว มีการฉีดวัคซีนให้ประชากรแล้วถึง 7 ใน 10 ขณะที่อินโดนีเซียมีอัตราการฉีดวัคซีนทั่วประเทศอยู่ที่ 29 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเกาะบาหลีที่เพิ่งเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีอัตราการฉีดวัคซีนมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์จากประชากร 4.4 ล้านคน







ส่วนเรื่องของการสวมหน้ากาก ปัจจุบันนี้ประเทศส่วนใหญ่ยังคงขอความร่วมมือให้ยังคงสวมหน้ากากต่อไป แม้ว่าจะไม่ได้เป็นข้อบังคับทางกฎหมายก็ตาม อย่างรัฐบาลเนเธอร์แลนด์จะมีข้อบังคับให้สวมหน้ากากในขณะที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ และบนเครื่องบิน ส่วนในภูเก็ตจะขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากภายในอาคาร แต่ไม่ได้บังคับในสถานที่สาธารณะทุกแห่ง ขณะที่สิงคโปร์และบาหลี ยังคงมีข้อบังคับให้สวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะทุกแห่ง




อเล็กซ์ คุ้ก รองคณบดีสำนักวิชาสาธารณสุข ซอว์ สวี ฮ็อก มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ระบุว่า ผู้ที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยว ควรให้ความสำคัญกับรายละเอียด ข้อบังคับต่างๆ ในการเดินทางข้ามพรมแดน เพราะกฎระเบียบแต่ละที่ต่างกัน ยกตัวอย่างเช่น คุณสามารถที่จะเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางจากประเทศ A ไปยังประเทศ B ทั้งไปและกลับ และเดินทางจาก A ไป C ได้ แต่จะไม่สามารถเดินทางจาก C ไป A ได้ในเงื่อนไขเดียวกัน







นอกจากนี้ ผู้ที่จะเดินทางไปท่องเที่ยวระยะนี้ต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า มีความเสี่ยงที่อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงกฎข้อบังคับต่างๆ กะทันหันหากสถานการณ์การระบาดของโรคมีการเปลี่ยนแปลง เพราะแม้แต่ทราเวลบับเบิลระหว่างสิงคโปร์กับฮ่องกงก็ยังล้มเหลวมาแล้วถึง 2 ครั้ง ดังนั้นคำแนะนำสำหรับนักเดินทางก็คือ จะต้องเตรียมความพร้อม และเตรียมแผนที่ยืดหยุ่นได้ตลอดการเดินทาง




อย่างไรก็ตาม คุ้กยังมองในแง่ดีว่า แม้จะมีโอกาสที่จะติดเชื้อโควิดระหว่างเดินทาง แต่ความเสี่ยงที่จะล้มป่วยสำหรับคนที่รับวัคซีนครบแล้วยังมีค่อนข้างต่ำ แม้ว่าจุดหมายปลายทางที่จะเดินทางไปจะยังมีการระบาดของโควิด-19 ในระดับสูงก็ตาม ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวในยุคนี้จะต้องรับความเสี่ยงให้ได้




จะปลอดภัยกว่ามั้ยหากเลือกจุดหมายที่ไม่ใช่เมืองใหญ่?




ไม่จำเป็นเสมอไป เพราะการศึกษาวิจัยเรื่องอัตราการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรัฐเซาท์แคโรไลนาของสหรัฐฯ พบว่า แม้จะพบว่าพื้นที่ในเมืองจะมีจำนวนผู้ติดเชื้อในยอดรวมสูงกว่า แต่หากเทียบอัตราต่อจำนวนประชากรแล้ว กลับพบว่ายังต่ำกว่าในพื้นที่ชนบท ซึ่งชี้ว่าอัตราการระบาดเกิดขึ้นจากหลายปัจจัย ทั้งจำนวนการตรวจคัดกรอง นโยบายในท้องถิ่น ทรัพยากรทางการแพทย์ รวมทั้งความตื่นตัวของคนในชุมชนด้วย ดังนั้นคงเป็นการยากที่จะพิสูจน์เปรียบเทียบความสัมพันธ์โดยตรงระหว่างความหนาแน่นของประชากรกับอัตราการระบาดของเชื้อ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานสาธารณสุขทั่วโลกต่างก็แนะนำให้ยังคงหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีผู้คนหนาแน่น โดยเฉพาะในพื้นที่ที่อัตราการแพร่ระบาดของโรคยังสูงอยู่







ควรหลีกเลี่ยง ไนต์คลับ สถานที่จัดคอนเสิร์ตหรือไม่




ศาสตราจารย์ เตียว ยิก หยิง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ระบุว่า เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบุคคล ว่าอยากจะเสี่ยงหรือไม่ เนื่องจาก ไนต์คลับ เป็นจุดที่มักจะเกิดการระบาดของโรคได้รวดเร็วหรือเรียกว่าเป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์ จากข้อมูลของหลายประเทศในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่อลูกค้าปฏิเสธที่จะสวมหน้ากากในพื้นที่ที่ยังคงมีการแพร่ระบาดของโรคอยู่ ขณะที่สถานที่จัดคอนเสิร์ตแต่ละประเภทจะมีความแตกต่างออกไปเล็กน้อย เพราะคอนเสิร์ตร็อก กับคอนเสิร์ตดนตรีคลาสสิกก็แตกต่างกัน ทั้งลักษณะของการจัดสถานที่ แสงสีเสียง รวมทั้งคนฟัง โดยคอนเสิร์ตร็อกจะมีความคล้ายคลึงกับไนต์คลับมากกว่า และมีความเสี่ยงในการติดเชื้อได้ง่ายกว่าคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกที่มีแต่การบรรเลงเพลงด้วยเครื่องดนตรี







จำเป็นที่จะต้องฉีดพ่นเจลและสเปรย์แอลกอฮอล์ทุกสิ่งที่สัมผัสหรือไม่ ?




ปัจจุบันนี้ ทางวิทยาศาสตร์พบว่าประชาชนสามารถติดเชื้อโควิด-19 ผ่านการสัมผัสพื้นผิวต่างๆ ได้ แต่ก็ยังถือว่ามีความเสี่ยงต่ำ โดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริการะบุว่า การทำความสะอาดพื้นผิวต่างๆ ด้วยการใช้สบู่ หรือผงซักฟอกก็เพียงพอที่จะลดความเสี่ยงแล้ว แต่ศาสตราจารย์เตียวระบุว่าเจลล้างมือก็มีประโยชน์ในการช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ดีในขณะที่เราต้องเดินทาง แม้ว่าจะไม่มีการระบาดของโควิด-19 อยู่ก็ตาม ดังนั้นผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้นักเดินทางพกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวไว้ และใช้ทุกครั้งก่อนที่จะรับประทานอาหาร หากไม่สะดวกที่จะไปล้างมือด้วยน้ำสะอาด แต่หากมีทางเลือกสามารถล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดจะเป็นการทำความสะอาดที่ดีที่สุด






 


จำเป็นต้องสวมหน้ากากหรือไม่ หากจุดหมายที่ไปไม่บังคับให้สวม?




ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าควรจะสวมต่อไป เพราะผลจากการศึกษาชี้ว่า การสวมหน้ากากช่วยลดการแพร่เชื้อไวรัสลงได้ และการฉีดวัคซีนแล้วไม่ได้ช่วยป้องกันการรับเชื้อ




โจเซพ ควัน ไค่ โช ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านควบคุมสภาพแวดล้อมในการติดเชื้อ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฮ่องกง ระบุว่าตราบใดที่การระบาดของโรคยังคงอยู่ การสวมหน้ากากคือโล่ป้องกันที่มีประสิทธิภาพและจำเป็นที่สุด เพราะแม้แต่คนที่รับวัคซีนแล้ว ก็ยังมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อได้ โดยวัคซีนแต่ละตัวจะมีข้อจำกัดต่อการกลายพันธุ์ของไวรัสบางสายพันธุ์ และคนที่ติดเชื้อก็จะแสดงอาการเล็กน้อย หรืออาจจะไม่แสดงอาการเลย







ทานอาหารแบบกลางแจ้ง หรือในร้านปลอดภัยกว่า?




ศาสตราจารย์ เตียว ยิก หยิง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ระบุว่า การทานอาหารที่นั่งกลางแจ้งหรือในที่เปิดโล่งจะมีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อน้อยกว่าอยู่แล้ว เพราะมีการระบายอากาศตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่มันจะช่วยได้ก็ต่อเมื่อต้องปฏิบัติตามมาตรการอื่นๆ ประกอบกัน ยกตัวอย่างชาติในยุโรป หรืออเมริกา ที่ประชาชนไม่ปฏิบัติตามมาตรการเว้นระยะห่าง นั่งรวมกันจำนวนมาก ก็ยากที่จะควบคุมการระบาดได้



 


ด้านศาสตราจารย์ โจเซพ ควัน ไค่ โช ระบุว่า มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดการติดเชื้อโควิด-19 ในร้านอาหาร ซึ่งรวมถึงอัตราการเข้าไปใช้บริการในร้าน การรับวัคซีนของพนักงาน การเว้นระยะห่างของโต๊ะ รวมทั้งการรักษาความสะอาดของทางร้านและผู้เข้าไปใช้บริการด้วย ดังนั้นไม่ว่าคุณจะรับประทานอาหารในร้าน หรือนอกร้าน วิธีการปฏิบัติตนที่ดีที่สุดก็คือสวมหน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นเวลารับประทานอาหารเพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ







ควรเตรียมแผนอย่างไรเพื่อลดความเสี่ยง หากเดินทางไปพร้อมเด็กที่ยังไม่ได้รับวัคซีน




ในช่วงเวลาเช่นนี้ ที่ทุกอย่างอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา แผนแรกที่ควรทำคือการเลือกเที่ยวบินหรือที่พักที่สามารถเปลี่ยนแปลงเลื่อนวัน หรือคืนเงินได้ รวมทั้งการซื้อประกันการเดินทาง นอกจากนี้ก่อนเดินทางก็ควรศึกษาข้อมูลให้อัปเดตตลอดเวลา ทั้งข้อมูลด้านสาธารณสุข และข้อมูลการเดินทางเข้าประเทศของประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทาง โดยเด็กๆ ที่ยังไม่ได้รับวัคซีนควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการสวมหน้ากาก หลีกเลี่ยงฝูงชน และรักษาสุขอนามัยความสะอาดของมืออยู่ตลอดเวลา




ดังนั้นสรุปภาพรวมหากต้องการที่จะท่องเที่ยวต่างประเทศในระยะนี้ สามารถทำได้ โดยต้องรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นหลายด้าน รวมทั้งจะต้องมีการดูแลสุขอนามัยและป้องกันตัวเองในระดับหนึ่ง เพื่อให้ทริปการท่องเที่ยวที่เกิดขึ้นเป็นความทรงจำที่ดี และไม่พ่วงเอาโรคที่ทั่วโลกต่างหวาดกลัวติดตัวกลับประเทศไปด้วย.



 


ผู้เขียน : อาจุมม่าโอปอล




ที่มา : SCMPcntravellertimeout



เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้

เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ หากคุณยังคงใช้ไซต์นี้ต่อไปหมายความว่าคุณยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขและนโยบายความเป็นส่วนตัว.